ReadyPlanet.com


ใช้ยา


 การจัดการเชิงระบบสู่ประเทศ ใช้ยาอย่างสมเหตุผล โดยชุมชนเป็นศูนย์กลาง สมัชชาสุขคาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๒ ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง ... สู่การพัฒนาสังคมสุขกาวะ คนไทยเข้าถึงยามากขึ้น และใช้ยาอย่างไม่เหมาะสม ใช้ยาปฏิชีวนะ เก็บไว้ รับประทาน ไม่รับประทาน พร่ำเพรื่อ ให้คนอื่นใช้ ยาไม่ครบ NCDS ยาเลย "ฉีดยาเกินจำเป็น กลุ่มประชากรสูงอายุ โรคที่ต้อรักษาต่อเนื่อง หลักประกันสุขภาพ ยาปฏิชีวนะ ยาต้นจุลชีพ ยาสเตียรอยด์ . ไม่รับประทานยาให้ครบ อะไรคือการใช้ยาไม่สมเหตุผล เราใช้ยาเกินความจำเป็นหรือไม่ ㆍ ใช้กลุ่มยาไม่ตรง กับเชื้อโรค การใช้ยาไม่สมเหตุผลนับเป็นปัญหาสำคัญระดับโลก จากแนวโน้มการดูแลสุขภาพของคนไทยในอดีต เมื่อเจ็บป่วย มาอย่างยาวนาน ส่งผลให้ผู้ป้วยได้รับความเสี่ยงจากผลข้างเคียง เล็กน้อย ประชาชนมักซื้อยารักษาตนเองถึงร้อยละ ๖๐-๘๐ และอันตรายจากยาเพิ่มขึ้น ปัญหาเชื้อดื้อยา เกิดความสูญเสียทั้ง แต่ปัจจุบัน พบว่าการสำรวจในปี ๒๕๕๘ มีการไปรักษาที่สถาน ผู้ป่วย ครอบครัวและประเทศ องค์การอนามัยโลกระบุว่า มากกว่า พยาบาลของรัฐเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ ๔๔ และมีการซื้อยากินเอง ร้อยละ ๕๐ ของการใช้ยาในประเทศกำลังพัฒนาเป็นการใช้ยาที่ไม่ เพียงร้อยละ ด๗.๕๗ ขณะเดียวกันยังพบว่ามีประชาชนที่มื ชุมชนเป็นศูนย์กลางในการแก้ไขปัญหา รายได้สูงจ่ยเงินเพื่อบริโภคยาบำรุงและอหารเสริมเพิ่มขึ้น เหมาะสมและสูญเปล่า การใช้ยาไม่สมเหตุผลที่พบบ่อย เช่น แม้ว่าประชาขนจะไปใช้บริการจากโรงพยาบาลมากขึ้น และ เมื่อประชาชนไปรับการรักษาที่สถานพยาบาลของรัฐมากขึ้น การใช้ยาหลายขนานร่วมกัน การใช้ยาปฏิชีวนะที่ไม่เหมาะสม การซื้อยากินเองลดลง แต่กลับพบว่าประชาขนกว่าครึ่งหนึ่งยังได้รับ หรือการไปรับการรักษาและซื้อยจากแหล่งต่าง ๆ ได้เกิดปัญหา การใช้ยาฉีดเกินจำเป็น ทั้งที่มียารับประทานที่เหมาะสมกว่า ยาเหลือใช้ ที่พบในครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นยารักษาสำหรับโรคเรื้อรัง ผลกระทบจากการใช้ยาที่ไม่ปลอดภัย และเกิดปัญหาจากการใช้ยา การสั่งใช้ยาไม่เป็นไปตามแนวทางการรักษา และการใช้ยารักษา ในบ้าน ทั้งที่สมารถป้องกันได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากปัจจัยภายในบุคคล โดยมี ๖ สาเหตุหลัก ที่ทำให้เกิดยาเหลือใช้ ได้แก่ ๑. ไม่กินยา ด้วยตนเองที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้ร้อยละ ๑๐-๔๐ ตามแพทย์สั่ง ๒. หยุดกินยาเอง เมื่ออาการดีขึ้น ๓. ปรับลดขนาด และปัจจัยสิ่งแวดล้อมในชุมชน รวมถึงยังไม่มีระบบที่ชัดเจนในการ ของงบประมาณสุขภาพของประเทศทั่วโลกเป็นค่ายา โดยผู้ป่วย เชื่อมโยงกัน ตั้งแต่ระบการกำกับดูแลยา การใช้ยาในสถาน ยาเอง ๔. ลืมกินยา ๕. รับยาจากหลายแหล่ง และ ๖. ไม่ยอมแจ้ง ที่ได้รับการรักษาตามมาตรฐานการรักษามีไม่ถึงครึ่ง และผู้ปวย พยาบาลทั้งรัฐและเอกชน จนสามารถนำไปสู่การแก้ปัญหาระบบ แพทย์ว่ามียาเหลือ โดยพบว่าครัวเรือนที่มียาปฏิชีวนะเหลือใช้ มากกว่าครึ่งไม่สามารถใช้ยาที่ได้รับมาจากผู้สั่ใช้ยาได้อย่างถูกต้อง ยาในชุมชนได้ ถึงร้อยละ ๑๐ และส่วนใหญ่เป็นยารับจาก รพ/รพสต. มูลค่ายา ตั้งแต่ปี ๒๕๒๙ ซึ่งเป็นปีแรกในที่ประชุมสมัชชาอนามั้ยโลก เหลือใช้เฉลี่ย ประมาณ ๓,๐๐๐ บาฟ/คน ส่งผลให้ประเทศไทย ที่ผ่านมามีความพยายามแก้ปัญหายาในชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง ได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกดำเนินการเพื่อส่งเสริมการใช้ยา มีการครอบครองยาเกินจำเป็น นอกจากนี้ร้นชำส่วนใหญ่พบ ส่วนใหญ่ยังเป็นการดำเนินการโดยภาครัฐแต่ยังกระจัดกระจาย อย่างสมเหตุผล และต่อมาองค์การอนามัยโลกก็ได้ประกาศนโยบาย ขายยาบรรจุเสร็จ ยาสามัญประจำบ้าน รวมถึงยาปฏิชีวนะ การใช้ยา หรือบางแห่งดำเนินการด้วยความตื่นตัวฉพาะพื้นที่ โดยปัจจุบัน และแนวทางการทำงานให้ประเทศสมาชิกดำเนินการ ไม่สมเหตุสผลของประชาชคิดจากการชาดความรอบรู้ขาดข้อมูล เริ่มมีการพัฒนารูปแบบแนวทางการดำเนินงานการใช้ยาสมเหตุผล และผลจากการโฆษณา รวมถึงการส่งเสริมการขายที่ผิดกฎหมาย ในชุมชนโดยควาร่วมมืจากหลายผยที่กี่ยวข้อง ส่งผลให้บางพื้นที่ คนไทยใช้ยามากแค่ไหน...อย่างไร เกินจริง สามารถแก้ปัญหายาในชุมชนได้อย่างเป็นระบบ แต่ในภาพรวม รวมทั้งโรคเอดส์ และกลุ่มประชากรสูงอายุที่ไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สำหรับประเทศไทย ค่าใช้จ่ายคนยามีอัตราการเติบโต ยังขาดการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขาด ประมาณร้อยละ๗-๘ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์ สังคมผู้สูงอายุอย่งสมบูรณ์ ในปี ๒๖๔ และที่สำคัญที่สุด คือ การมีส่วนร่วมและมองชุมชนเป็นศูนย์กลาง รวมถึงขาดการพัฒนา ค่ใช้จ่ายคำยาที่เพิ่มสูงขึ้นเกิดจากการใช้ยาอย่างไม่เหมาะสม มวลรวมภายในประเทศ (GDP) (ที่มีเพียงร้อยละ ๕๖ ต่อปี) ทำให้ เครื่องมือเพื่อสนับสนุนการทำงาน ตลอดจนยังขาดการวัดผลผลิต มูลค่าการบรึโภคยาสูงถึร้อยละ๔ด ของค่ใช้จ่ายสุภาพซึ่งสูงกว่า เกิ า เกินความจำเป็นในทุกๆ ระดับ รวมถึงการใช้ยาทั้งในสถานพยาบาล และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงาน ประเทศที่พัฒนาแล้ว(รอยละ ๑๐ -๒๐)ปัจจัยที่มีผลทำให้ปริมาณ ภาครัฐและเอกชน การใช้ยาในองค์กรที่ไม่ได้มีภารกิจหลักเกี่ยวกับ การใช้ยาเพิ่มสูงขึ้นประกอบด้วย การที่คนไทยเข้าถึงยามากขึ้นจาก การสาธารณสุข เช่น ทัณฑสถานวัด โรงเรียน โรงงาน เป็นตัน และ การมีระบหล้ประกัสขพ ลุโรที่ต้องกรการรักษต่อเพื่อง พปัญหกรใช้ยในภาคประชาชน ทั้งชุมชนเมืองและชนบท เครื่องมือสำคัญ ในการสร่างความปลอดภัยจากการไชยา ใช้ยาหลายขนานร่วมกัน ประเทศไทย ร้อยละ ๔๑ www.pussy99th.com/



ผู้ตั้งกระทู้ จารย์ยิป :: วันที่ลงประกาศ 2020-04-17 18:05:12


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2011 All Rights Reserved.